วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561




ความสำเร็จ เป็นสิ่งที่วัดผลได้จากหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะวัดจากขนาดของความสุข รายได้ ความสำเร็จในเรื่องชีวิตส่วนตัว หรือความสำเร็จในหน้าที่การงาน อย่างไรก็ตาม คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ไม่ว่าเป้าหมายจะแตกต่างกันเพียงใด ทุกคนกลับมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกันอยู่ส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถช่วยนำพาพวกเขาไปสู่จุดสูงสุดในแต่ละสายอาชีพ
คุณอาจจะคิดว่าทักษะเหล่านี้ต้องมีมาแต่กำเนิด แต่แท้จริงแล้วเราทุกคนล้วนสามารถเรียนรู้กันได้ทั้งนั้น เรามาดูกันดีกว่าว่า ทักษะความสามารถที่คุณต้องมีเพื่อความสำเร็จในหน้าที่การงานนั้นมีอะไรบ้าง?

1.ทักษะการสื่อสาร

คนประสบความสำเร็จมักทำงานร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี และเป็นนักสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ มีผู้จัดการจำนวนมากกล่าวว่า ทักษะนี้เป็นทักษะที่ทั้งพนักงานใหม่และพนักงานเก่ามีกันน้อยที่สุดเลยทีเดียว

2.การคิดวิเคราะห์

ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การแบ่งแยกความเห็น การแตกประเด็นปัญหา และการตั้งคำถามที่ดี ล้วนเป็นคุณลักษณะสำคัญที่เหล่าผู้นำและเหล่านักคิดทุกคนพึงมี มันเป็นทักษะที่มีคุณค่ามากแต่คนเรากลับไม่ค่อยให้ความสำคัญกันนัก อีกทั้งเป็นทักษะทีสามารถเรียนรู้กันได้ไม่ยากอีกด้วย

3.ทักษะในการเรียนรู้

คนที่ประสบความสำเร็จมักจะมีความอยากรู้อยากเห็นและชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ วิธีการเรียนรู้มีอยู่หลายรูปแบบ แต่คนส่วนใหญ่กลับไม่รู้วิธีการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับตัวเอง เวลาที่อ่านหรือเรียนรู้เรื่องใดไปก็มักจะลืมความรู้นั้นไปหมดในไม่ช้า หรืออาจใช้เวลานานเกินไปในการจะซึมซับความรู้นั้นได้ ดังนั้นทางที่ดี การที่รู้ว่าตัวเองเหมาะสมกับการเรียนรู้รูปแบบไหน จึงเป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยให้เราสามารถจดจำความรู้นั้นใด้ดีขึ้นได้

4.การใช้สื่อออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้สื่อออนไลน์เป็นสิ่งที่ช่วยในการพัฒนาทักษะทางอาชีพให้เร็วขึ้นได้ แต่คนส่วนใหญ่กลับใช้มันอย่างไม่คุ้มค่านัก ความรู้ใหม่ๆ โอกาสและงานใหม่ๆ ล้วนอยู่ใกล้ตัวเราแค่ปลายนิ้ว อยู่ที่เราว่าจะสามารถใช้สื่อออนไลน์เหล่านี้ให้เกิดประโยชน์กับการงานของเราได้มากน้อยแค่ไหน

5.มีความเป็นผู้นำ

การเป็นผู้จัดการที่ดีนั้น เราจะต้องสามารถสร้างความไว้วางใจและความสามัคคีภายในทีมให้ได้ เพราะบุคคลเหล่านี้แหละที่ทำให้บริษัทของคุณคงอยู่ได้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่คุณต้องหมั่นสร้างความเชื่อมั่นให้กับพนักงานของคุณอยู่เสมอ การแสดงให้พวกเขาเห็นถึงวิสัยทัศน์อันชัดเจน และการบริหารคนอย่างมีประสิทธิผล

6.ทักษะการบัญชีเบื้องต้น

ไม่ว่าคุณจะทำงานฝ่ายบัญชีอยู่ตอนนี้หรือไม่ เราทุกคนก็ควรมีความรู้เกี่ยวกับการทำบัญชีเบื้องต้นเอาไว้ การที่คุณจะประสบความสำเร็จในการงานและการเงินได้นั้น สิ่งพื้นฐานที่ควรทำก่อนสิ่งอื่นสิ่งใดเลยก็คือ “การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย” คุณควรจะรู้เสียก่อนว่าเงินทุกบาทของคุณถูกใช้ไปกับอะไรบ้าง รวมไปถึงการนำเงินที่มีเหล่านั้นไปลงทุนอย่างเหมาะสมด้วย

7.การบริหารเวลา

คนที่ประสบความสำเร็จจะให้ความสำคัญกับเวลาเป็นอันดับหนึ่ง และใช้มันให้เกิดประโยชน์มากที่สุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับงานหรอกนะ เพราะคนที่จะสำเร็จได้นั้นจะต้องเข้าใจว่าการใช้พลังงานที่มีจนหมดไปล้วนไม่มีผลดีกับใครเลย นี่จึงเป็นเหตุผลที่พวกเขามักบริหารเวลาในการทำงานให้เกิดประสิทธิผลที่สุด และยังมีเวลาเหลือเฟือให้กับสิ่งที่ตัวเองรักด้วย

8.การทำงานเป็นทีม

คนที่ประสบความสำเร็จจะรู้วิธีการทำงานเป็นทีมให้มีประสิทธิภาพ นั่นหมายความว่าพวกเขารู้จักรับฟังผู้อื่น รู้จักต่อยอดความคิด และรู้จักการสร้างแรงจูงใจให้ผู้คนในทีม เพื่อให้ผลลัพธ์ของงานออกมาดีที่สุด

9.การรับมือกับความเครียด

สำหรับคนที่อยากจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ความเครียดเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่เราไม่อาจหนีพ้น ดังนั้นแล้ว คุณจะต้องรู้วิธีรับมือกับมันเพื่อไม่ให้มันมาดับความฝันคุณลงเสียก่อน


คู่มือประสบความสำเร็จ แอดไลน์


รับแรงบันดาลใจดีๆ ทุกวัน กดไลค์

แชร์บทความนี้

วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561


       1.  กินอาหารครบ 5 หมู่  แต่ละหมู่ให้หลากหลาย และหมั่นดูแลน้ำหนักตัว
          ข้อแนะนำนี้เป็นข้อแนะนำหลัก  ยึดอาหารหลัก 5 หมู่  และเพิ่มความสำคัญของการกินอาหารแต่ละหมู่ให้มีความหลากหลาย  ไม่จำเจอยู่เพียงอาหารไม่กี่ชนิด   น้ำหนักตัวเป็นเครื่องบ่งชี้อย่างง่ายถึงภาวะสุขภาพ  ในผู้ใหญ่ที่กินอาหารได้เหมาะสม  จะมีน้ำหนักตัวที่เหมาะสม  มีรูปร่างที่ไม่อ้วนหรือผอมเกินไปและมีน้ำหนักตัวค่อนข้างคงที่  หากสังเกตเห็นว่าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากน้ำหนักปกติ  แสดงให้เห็นว่าเริ่มกินอาหารมากเกินไปแล้ว ควรจะต้องหันมาควบคุมลดปริมาณให้น้อยลง  โดยไม่จำเป็นต้องรอให้เสื้อผ้าคับก่อนที่เริ่มรู้สึกตัวเพราะเสื้อผ้าสมัยใหม่มักนิยมใช้สายยืดเพื่อให้สวมใส่สบาย
           หรือหากพบว่าน้ำหนักตัวลดลงเรื่อยๆ  ก็ควรต้องให้ความสนใจพร้อมทั้งสังเกตว่ามีการอ่อนเพลีย ง่วง ซึม หรืออาการที่แตกต่างไปจากปกติเกิดขึ้นด้วยหรือไม่ ถ้ามีอาการมากควรพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ  สำหรับเด็ก ร่างกายมีการเจริญเติบโต น้ำหนักตัวควรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอัตราที่เหมาะสม  ดังนั้น ควรหมั่นชั่งน้ำหนักตัวอย่างน้อยเดือนละครั้ง
          2.  กินข้าวเป็นอาหารหลัก สลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ
          เพื่อเป็นการรักษาเอกลักษณ์ของคนไทย  จึงให้ความสำคัญกับการกินข้าวเป็นอาหารหลัก  ถ้าเป็นไปได้ ควรกินข้าวซ้อมมือ เพราะมีวิตามิน แร่ธาตุ โปรตีนและใยอาหารมากกว่าข้าวที่ขัดสีจนขาว ส่วนอาหารแป้ง เช่น ขนมปัง ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน ให้กินเป็นบางมื้อ  อาหารแป้งเป็นอาหารที่ผ่าน-การแปรรูป ใยอาหารจะมีน้อยกว่าในข้าว
/data/content/2014/03/23627/cms/abdlpqtvxy38.jpg
          3.  กินพืชผักให้มาก และกินผลไม้เป็นประจำ
          อาหารหลัก 5 หมู่  ของไทยมีเอกลักษณ์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ การจัดแยกพืชผัก และผลไม้เป็นอาหารหลักคนละหมู่ เนื่องจากประเทศไทยมีพืชผักและผลไม้อุดมสมบูรณ์ที่ผู้บริโภคสามารถเลือกบริโภคได้ตลอดปี พืชผักและผลไม้ให้สารอาหารที่สำคัญหลายชนิด คือ วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร และให้สารอื่นที่มิใช่สารอาหาร เช่น สารแอนติออกซิแดนท์ที่ช่วยไม่ให้อนุมูลอิสระทำลายเนื้อเยื่อและผนังเซลล์   ช่วยชะลอการเสื่อมสลายของเซลล์  ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูสดใส ไม่แก่เกินวัย  นอกจากนี้ยังให้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพรที่ช่วยรักษาสุขภาพ
         4.  กินปลา  เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน  ไข่ และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ
         เป็นการกินอาหารที่ให้โปรตีน  โดยเน้นปลาและอาหารประเภทถั่วเมล็ดแห้ง เช่น เต้าหู้ชนิดต่างๆ  สำหรับเนื้อสัตว์ให้เลือกที่ไม่ติดมัน หรือที่มีมันน้อย ไข่เป็นอาหารที่มีประโยชน์ ควรกินเป็นประจำ เด็กควรกินวันละฟอง  ผู้ใหญ่ภาวะปกติควรกินวันเว้นวัน หรือสัปดาห์ละ 2-3 ฟอง ส่วนคนที่มีปัญหาภาวะโคเลสเตอรอลสูงในเลือดควรลดปริมาณลง
         5.  ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย
          บางคนอาจมองเห็นว่าน้ำนมเป็นอาหารของต่างชาติ  ไม่ควรส่งเสริมการบริโภค  น่าจะให้คนไทยไปบริโภคอาหารอย่างอื่นจะดีกว่า   อย่างไรก็ดีเมื่อพิจารณาโดยรวม จะเห็นได้ว่าน้ำนมเป็นอาหารที่มีประโยชน์สมบูรณ์  เป็นแหล่งอาหารของโปรตีน แคลเซียม วิตามินบี 2 และแร่ธาตุต่างๆ นอกจากนี้น้ำนมเป็นอาหารที่กินง่าย ราคาไม่แพงเกินไป มีหลายชนิดหาได้ทั่วไป จีงเป็นการสะดวกที่จะใช้เป็นอาหารสำหรับคนทุกวัย
         ในกรณีที่ห่วงว่าคื่มนมมากๆ อาจทำให้อ้วน ผู้บริโภคสามารถเลือกดื่มนมพร่องไขมันได้ และในเวลาเดียวกันควรควบคุมปริมาณไขมันในอาหารชนิดอื่นด้วย เพราะเพียงไขมันจากน้ำนมอย่างเดียวไม่น่าที่จะทำให้เกิดโรคอ้วน
         ปริมาณที่แนะนำคือ เด็กควรดื่มวันละ 1-2 แก้ว   ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุควรดื่มวันละ 1 แก้ว
         6.  กินอาหารที่มีไขมันแต่พอควร
          ถึงแม้ไขมันจะเกี่ยวข้องกับปัญหาโภชนาการ เช่น โรคอ้วน  ภาวะไขมันในเลือดสูงที่นำไปสู่โรคหัวใจขาดเลือดได้  แต่ร่างกายต้องการไขมันเพื่อสุขภาพด้วยเช่นกัน เพียงแต่จะต้องควบคุมปริมาณและชนิดของไขมันที่จะบริโภคให้เหมาะสม  ลดอาหารที่มีไขมันมาก เช่น หมูสามชั้น ขาหมูพะโล้ และอาหารที่ใช้น้ำมันหรือกะทิจำนวนมากในการประกอบอาหาร